top of page

    ยุคอาณาจักรใหม่ (New kingdom) 1539 - 1075 ปีก่อน ค.ศ.

นักประวัติศาสตร์ต่างยอมรับกันว่ายุคนี้เป็นยุคที่อียิปต์รุ่งเรืองที่สุด โดยหลังจากพวกฮิกโซสถูกขับไล่ไปแล้ว อำนาจของฟาโรห์ เหนือนครต่างๆในลุ่มน้ำไนล์กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ ในยุคของฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 (Thutmosis) แห่งราชวงศ์ที่ 18 ในยุคนี้เมืองหลวงของอียิปต์คือนครธีบส์(Thebes) และฝั่งตรงข้ามของเมืองหลวงคือ หุบเขาแห่งกษัตริย์อันเป็นสถานที่ฝังพระศพฟาโรห์

ในยุคอาณาจักร ใหม่นี้ ทั้งนี้ชาวอียิปต์ได้ยกเลิกประเพณีการสร้างพีระมิดไปตั้งแต่ตอนปลาย ของอาณาจักรเก่าเนื่องจากสิ้น เปลืองวัตถุดิบและหันมาใช้วิธีเจาะหน้าผาเป็นสุสานแทน นอกจากธีบส์แล้วทุตโมซิสที่1 ยังได้สร้างนครอบีดอส (Abidos)ให้เป็นเมืองสำคัญในสมัยของฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 นี้เมืองหลวงคือ กรุงธีบส์เจริญรุ่งเรืองมากมีการสร้างวิหารขนาดใหญ่เพื่อบูชาแด่เทพเจ้า ซึ่งก็รวมทั้งมหาวิหารคาร์นัค นอกจากนี้ อียิปต์ยังได้เริ่มการแผ่อำนาจเข้าไปในดินแดนเอเชียตะวันออกใกล้และนูเบีย อีกด้วย

การเสื่อมและการล่มสลายของอียิปต์ (ปีที่1075 - 332 ก่อน ค.ศ.)

หลังการสวรรคตของรามเสสที่2 และโอรสของพระองค์มเนปตาห์ ขึ้นครองราชย์ จักรวรรดิอียิปต์เริ่มส่อเค้าวุ่นวาย บรรดาเมืองขึ้นต่างๆ เช่นนูเบียและลิเบียได้ก่อกบฎขึ้นแต่โชคดีที่ทางอียิปต์สามารถปราบปรามลงได้ ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เองทางฝ่ายฮิตไตท์ประสบภาวะ แห้งแล้งขาดแคลนอาหารทำให้ทางอียิปต์ต้องส่งอาหารไปช่วยตามข้อตกลงที่มีในสมัยรามเสสที่2 หลังการสิ้นพระชนม์ของฟาโรห์มเนปตาห์อียิปต์ต้องพบกับปํญหาการเมืองภายในฟาโรห์แต่ละองค์ครองราชย์เพียงช่วงสั้นๆ จนมาถึงปีที่1186ก่อนค.ศ.ฟาโรห์รามเสสที่3ขึ้นครองราชย์พระองค์ทรงได้รับการยอมรับจากทุกกลุ่ม ทำให้ปัญหาการเมืองภายในหมดไป แต่ในช่วงที่อียิปต์เริ่มจะฟื้นตัวนั้นเหตุการณ์สำคัญก็ได้เกิดขึ้น

การมาถึงของชนทะเล (Sea people)

หลังการครองราชย์ของรามเสสที่3 ทางด้านเมดิเตอเรเนียนได้เกิดความวุ่นวาย เนื่องจากภาวะแห้งแล้ง ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการรุกรานและการอพยพจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ประชาชนจากเมดิเตอเรเนียนต้องอพยพออกจากถิ่นฐานเดิม กลุ่มชนเหล่านี้ถูกเรียกว่าชาวทะเล(sea people) นักรบชาวทะเลเหล่านี้ประกอบด้วยคนเชื้อชาติต่างๆ เช่นไมซีเน่ อีเจียน ฟิลิสทีนแม้กระทั่งชาวซีเรียโดยพวกเขาได้เข้ารุกรานและทำลายบ้านเมืองต่างๆเรื่อยมา

สิ่งที่พวกนี้ต้องการ คือดินแดนใหม่ที่ อุดมสมบูรณ์ซึ่งพวกเขาจะตั้งถิ่นฐานได้ นอกจากนี้ชาวทะเลเหล่านี้ยังได้เข้าโจมตีและทำลายนครฮัตตูซัสเมืองหลวงของจักรวรรดิฮิตไตท์จน ราบคาบจากนั้นชาวทะเลจึงมุ่งหน้ามายังอียิปต์ดินแดนอู่ข้าวอู่น้ำของโลกโบราณ และในปีที่1179 ก่อน ค.ศ. สงครามระหว่างชาวทะเลกับอียิปต์ก็เกิดขึ้น

ฟาโรห์รามเสสที่3 สามารถพิชิตกองทัพชาวทะเลได้ทั้งทางบกและทางน้ำ ทำให้สามารถปกป้องจักรวรรดิได้สำเร็จชื่อเสียงของพระองค์เลื่องระบือ หลังสงครามพระองค์ยังปราบปรามพวกลิเบียที่ก่อกบฎลงได้ ทำให้จักรวรรดิเริ่มฟื้นตัวอีกครั้งแต่ทว่าสงครามที่ยาวนานทำให้อียิปต์สูญเสียกำลัง คนไปมากการค้าก็หดหายไปทำให้อียิปต์ขาดรายได้และท่ามกลาง ปัญหานี้เองรามเสสที่3 ก็สวรรคตลง

บทสุดท้าย แห่งอาณาจักร

วาระแห่งความเสื่อมสูญ:หลังการสวรรคตของรามเสสที่3 อียิปต์กลับสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง ทั้งจากปัญหาการเมืองและความอดอยาก ในที่สุดอียิปต์ก็แตกแยกกลายเป็นก๊กเป็นเหล่า บรรดาเมืองต่างๆตั้งตนเป็นอิสระ ชาวลิเบียซึ่งเป็นนักโทษสงครามของรามเสส ถือโอกาสตั้งตนเป็นอิสระผู้นำของพวกเขานามว่าโชชอง(Chochong) ได้เป็นฟาโรห์และรวบรวมแผ่นดินได้สำเร็จ แต่ก็เป็นเพียงช่วงสั้นๆและบ้านเมืองก็เข้าสู่สภาพแตกแยกอีกครั้ง

จนกระทั่งในปีที่663 ก่อน ค.ศ. กษัตริย์อัสซูบานิปาลแห่ง อัสสิเรีย ได้ยกกองทัพเข้ารุกรานอียิปต์ เมืองต่างๆถูกทำลาย ทรัพย์สมบัติถูกปล้นชิง และอียิปต์ก็ไม่อาจฟื้นตัวได้อีกต่อมาในปีที่525 ก่อนค.ศ. อียิปต์ก็ถูกปกครองโดยชาวเปอร์เซียและเมื่ออเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาซีโดเนีย ซึ่งเป็นชนเชื้อชาติกรีกพิชิตเปอร์เซียลง อียิปต์ก็ตกเป็นของมาซีโดเนียในปีที่335 ก่อน ค.ศ.

หลังการสวรรคตของอเล็กซานเดอร์จักรวรรดิมาซิโดเนียของพระองค์ล่มสลายลง เหล่าขุนศึกมาซีโดเนียต่างตั้งตนเป็นใหญ่ในดินแดนต่างๆที่พระองค์พิชิตมา นายพลปโตเลมีขุนศึกของพระองค์ก็ตั้งตนเป็นฟาโรห์และ ตั้งราชวงศ์ปโตเลมีซึ่งถือเป็นราชวงศ์สุดท้าย ขึ้นปกครองอียิปต์โดยมีเมืองหลวงที่อเล็กซานเดรีย

จนกระทั่งมาถึงปีที่ 36 ก่อน ค.ศ. พระนางคลีโอพัตราแห่งราชวงศ์ปโตเลมีพ่ายแพ้กองทัพโรมันที่แอคติอุม(Actium) และได้ปลิดชีวิตตนเองลงจากนั้นจักรวรรดิโรมันจึงผนวกอียิปต์เข้าเป็นส่วน หนึ่งของโรมและ นั่นคือการล่มสลายลงโดยสิ้นเชิงจากนั้นมา อียิปต์กลายเป็นเพียงมณฑลหนึ่งของโรมและกลายเป็นของจักรวรรดิไบเซนไทน์ในเวลาต่อมา และได้ถูกพวกมุสลิมเข้ายึดครองในภายหลัง

bottom of page